วันเดียว “เมียนมา” ฆ่าผู้ประท้วงกว่า 80 ศพ ที่พะโค-ขนใส่รถทหารไปกองรวมกันไว้

Latest World

แฟ้มภาพ ทหารและรถบรรทุกของกองทัพขณะปฏิบัติการที่นครย่างกุ้งเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 (Photo by Aung Kyaw Htet/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

รัฐบาลทหารเมียนมาปิดกั้นการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด รายละเอียดเกี่ยวกับการปราบปรามนองเลือดครั้งล่าสุดที่เมืองพะโค ซึ่งอยู่ไกลจากนครย่างกุ้งทางตะวันออกเฉียงเหนือหลายสิบกิโลเมตร เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เอเอฟพีได้รับคำบอกเล่าจากชาวบ้านหลายคนด้วยว่ากองทัพยังใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องซึ่งบังคับให้พวกเขาต้องหนีไปอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ

รอยเตอร์อ้างผู้เห็นเหตุการณ์และสื่อเมียนมาหลายแห่งว่า กองกำลังความมั่นคงยิงระเบิดปืนไรเฟิลใส่ผู้ประท้วงที่เมืองพะโค แต่ไม่สามารถสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างชัดเจนได้ เพราะกองกำลังความมั่นคงนำศพมากองรวมกันที่เจดีย์เซยามุนีแล้วปิดล้อมพื้นที่

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) และสื่อออนไลน์ เมียนมานาว ยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า กองกำลังความมั่นคงฆ่าผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร 82 คนในเมืองพะโคเมื่อวันศุกร์ เมียนมานาวบอกว่า การยิงเริ่มก่อนรุ่งเช้าวันศุกร์และยืดยาวถึงช่วงบ่าย ข่าวอ้างผู้จัดการชุมนุมชื่อ เย ทุ ว่าเหมือนกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พวกนั้นยิงใส่เงาทุกเงา

มีวิดีโอที่เอเอฟพีพิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริง ถ่ายไว้เมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ เผยภาพที่ผู้ประท้วงหลายคนหลบอยู่หลังแนวกระสอบทรายพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลประดิษฐ์เอง มีเสียงระเบิดดังหลายครั้ง

ชาวบ้านคนหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปใกล้ศพเหล่านั้น “พวกเขาเอาศพทั้งหมดมากองรวมกันแล้วขนขึ้นรถบรรทุกทหารขับออกไป” ชายคนนี้บอกกับเอเอฟพี

รายงานของหนังสือพิมพ์นิวไลต์ออฟเมียนมาเมื่อวันเสาร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปราบปราม “พวกก่อจลาจล” สื่อของทางการเมียนมาแห่งนี้รายงานว่ามีคนตายแค่ 1 คน

สำนักงานองค์การสหประชาชาติในเมียนมา ทวีตเมื่อคืนวันเสาร์ว่า กำลังติดตามเหตุการณ์นองเลือดที่พะโค ที่ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกปฏิเสธการรักษา “เราเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงอนุญาตให้ทีมแพทย์เข้าไปรักษาผู้บาดเจ็บ” สำนักงานยูเอ็นกล่าว

ก่อนหน้าการนองเลือดที่พะโค เอเอพีพีระบุในวันศุกร์ว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 618 คนนับแต่รัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์ แต่คำแถลงของโฆษกรัฐบาลทหารเมื่อวันศุกร์อ้างว่ามีคนเสียชีวิตเพียง 248 คนเท่านั้น

มีรายงานเหตุการณ์ไม่สงบที่เมืองทาทูในภาคตะวันตกเฉียงเหนือใกล้ชายแดนอินเดียเมื่อวันเสาร์ เมื่อผู้ประท้วงต่อสู้กลับ ภายหลังทหารพยายามทำลายแนวกั้นเพื่อปกป้องชุมชน ชาวบ้านกล่าวว่า มีพลเรือนตาย 2 คนเมื่อทหารยิงสุ่มไม่เลือก ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการปาระเบิด ทำให้รถบรรทุกทหารคันหนึ่งพลิกคว่ำ มีทหารเสียชีวิตมากกว่า 12 นาย

การนองเลือดเพิ่มมากขึ้นทำให้กองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มจับมือกันต่อต้านกองทัพเมียนมา ที่รัฐชานทางเหนือเมื่อวันเสาร์เกิดเหตุไม่สงบขึ้นอีก เมื่อกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (ทีเอ็นแอลเอ) โจมตีโรงพักช่วงเช้ามืด สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีตำรวจโดนฆ่าตายมากกว่า 12 นาย ทีเอ็นแอลเอกล่าวว่า กองทัพเอาคืนด้วยการโจมตีทางอากาศ มีทหารกบฏตาย 1

โทรทัศน์ของทางการเมียนมารายงานข่าวนี้ช่วงค่ำว่า “กลุ่มติดอาวุธก่อการร้าย” โจมตีสถานีตำรวจด้วยอาวุธหนักแล้วจุดไฟเผา

วันเดียวกันนั้น กองทัพอาระกัน (เอเอ) พันธมิตรของทีเอ็นแอลดี ในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตก ออกแถลงการณ์ย้ำว่าเอเอสนับสนุนขบวนการต่อต้านรัฐประหาร

กองกำลังชนกลุ่มน้อยอีก 2 กลุ่มได้แก่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) และกองทัพอิสรภาพกะฉิ่น (เคไอเอ) ก็โจมตีทหารและตำรวจเมียนมาเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ และโดนกองทัพตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศดินแดนของเคเอ็นยูในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเคเอ็นยูกล่าวว่าทำให้ชาวบ้านไร้ที่อยู่แล้วมากกว่า 24,000 คนถึงวันเสาร์

เมื่อวันศุกร์ จอ โม ทุน เอกอัครราชทูตผู้แทนเมียนมาประจำยูเอ็น กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นว่า จำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งร่วมกันโดยทันที เขาเสนอให้กำหนดเขตห้ามบิน, ปิดกั้นการค้าอาวุธ และคว่ำบาตรอย่างเจาะจงเป้าหมายกับสมาชิกในครอบครัวของพวกทหาร

ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์อิสระจากอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ป กล่าวต่อคณะมนตรีฯ ด้วยว่า เมียนมากำลังจวนเจียนจะเป็นรัฐล้มเหลว “การดำเนินการ (ของรัฐบาลทหาร) อาจสร้างสถานการณ์ที่ประเทศนี้ไม่สามารถปกครองได้” เขาเตือน.

https://www.thaipost.net/main/detail/99167